เสียงสามัญชน: 16 ปีแห่งความหลัง กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี

บันทึกเท่าที่ได้ เล่าเท่าที่เห็น

ปลายปีที่แล้วผมไปขลุกอยู่อุดรธานีหลายวันหลายคืน ได้รับความเอื้อเฟื้อจากมิตรสหายให้ถ่ายทอดเรื่องเล่าการต่อสู้ของกลุ่มอนุรักษ์อุดรธานีกับการต่อสู้เพื่อปกป้องถิ่นฐานบ้านเกิดมาเกือบ 2 ทศวรรษภายใต้โจทย์ “อีสานสามัญ” และความร่วมสมัยของสังคมอีสาน

อันที่จริง การแย่งชิงทรัพยากรมันไม่ได้แค่ร่วมสมัย แต่มันคือการร่วมชะตากรรม และชะตากรรมนี้ก็ไม่ได้มีเขตแดนแค่ที่ราบสูง แต่ยังหมายถึงภาพรวมทั้งประเทศ และจนถึงบัดนี้กลุ่มทุนยังรุกคืบข้ามพรมแดนรัฐชาติไปแล้ว บางพื้นที่ยังยืนหยัดปกป้องฐานทรัพยากรได้ แต่บางพื้นที่ก็ไม่ และหากจบลงอย่างหลัง ไม่ใช่เพียงพวกเขาสูญเสียป่าไม้ ใบหญ้า หรือสายน้ำ แต่พวกเขาอาจต้องสูญเสียประวัติศาสตร์ของตนเองเนื่องจากต้องย้ายและถูกย้ายออกจากพื้นที่นั้นๆ ไปด้วย

ผมเลือกเล่าสารคดีชิ้นนี้ด้วยแนวคิดเรียบง่ายว่า ในสถานการณ์ที่หลายพื้นที่ถูกกระทำ แต่กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี กลับปักหลักสู้กับรัฐและทุนมา 16 ปีแล้ว

หากนี่คือสังเวียน น่าสงสัยว่าใครกันแน่ที่เป็นมวยรองระหว่างรัฐ ทุน และชาวบ้าน

การสู้ของพวกเขา คือสัญลักษณ์ คุโณปการของกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ไม่ได้มีแค่ให้คนอีสานเรียนรู้ แต่เป็นโรงเรียนที่คนตัวเล็กตัวน้อยจากทั่วสารทิศเข้าไปศึกษาและถามไถ่ พวกเขาสู้ได้อย่างไร ไม่มีอะไรดีไปกว่าการฟังจากปากคำสามัญชนเช่นพวกเขาแล้ว

สารคดีเล่าเรื่องจากตำนานกระรอกด่อนจนถึงการล่มสลายทางใจของชุมชนเมื่อชาวบ้านถูกโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ฉีกความรู้สึกของผู้คนให้แตกเป็นหลายเสี้ยวความคิด

จนป่านนี้เหมืองแร่โปแตซยังไม่เกิด แต่ชาวบ้านที่บ้างเอา บ้างต้าน บ้างเฉย ทุกวันนี้มองหน้ากันไม่ติด การไม่เผาผีนั้นมีนัยทั้งนามธรรมและรูปธรรม

งานชิ้นนี้ถูกจัดวางร่วมกับภาพถ่ายทรงพลัง Installation Arts อีกนับไม่ถ้วนจากหลายศิลปินภายใต้โจทย์ร่วมเดียวกันคือ “อีสานสามัญ” Common Exercises: Isan Contemporary Report ซึ่งกำลังถูกจัดแสดงที่ชั้น 9 Bacc หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

ว่างก็ไป ไม่ว่างก็แวะไปครับ เพราะงานจะถูกขึงยาวเกือบ 3 เดือน ตั้งแต่ 26 มกราคม – 15 เมษายน 2561

ถ้าไม่มีเวลาไปเฉียดเอาเสียเลยก็ชิมน้ำจิ้มจากคลิปนี้ไปแทนก็แล้วกัน

เป็นนักเขียนเพียงคนเดียวของเว็บไซต์นี้ (แหงละ) เป็นมนุษย์ที่ชอบบันทึกเรื่องราวเอาไว้ เนื่องจากไม่ถนัดในการจดใส่กระดาษ จึงมักเขียนไว้ในโลกออนไลน์ บางเรื่องผิด บางเรื่องถูก แต่บันทึกความทรงจำจะช่วยตักเตือนเรา