1.
มันเป็นภาพของเด็กชายนั่งบนเก้าอี้เหล็กในบ้านไม้หลังเล็กๆ เด็กคนนั้นถือดอกดาวบานชื่นสีชมพู จ้องเขม็งมาที่เลนส์กล้อง เสื้อสีสดและดอกไม้สีหวานบัดนี้ซีดเก่าไปด้วยกาลเวลา
นั่นเป็นภาพถ่ายใบเดียวในวัยเด็กของผม เป็นสิ่งยืนยันว่าผมเคยมีช่วงชีวิตอยู่ในวัยเยาว์เช่นกัน
ยุคนั้น ลำพังจะหากล้องสักตัวคงเป็นเรื่องเพ้อฝัน นานทีจะมีช่างภาพหลงเข้ามา วันนั้นผมโชคดีที่ออกจากป่าเข้ามาในหมู่บ้าน แม่ขอให้ช่างภาพบันทึกความทรงจำเอาไว้ให้เป็นหลักฐาน
ด้วยความที่เกิดและโตมากับป่า ภาพใบเดียวนั้นคือความทรงจำเดียวที่พอจะช่วยให้ผมจินตนาการได้ว่าตัวเองเป็นเช่นไร เวลาที่เห็นใครมีอัลบั้มวัยเด็กมาอวดจึงมักเรียกความรู้สึกรื้นๆ ขึ้นมาได้เสมอ
วัยเด็กอยู่กับเราไม่นาน เพราะเราสนุกจนลืมเวลา เผลอแป๊บเดียวเราก็ก้าวพรวดสลัดความเยาว์ทิ้ง คงไว้แต่ความเขลาที่ไม่เคยดิ้นหลุดเสียเลย
2.
ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมามีโอกาสเดินทางไปหลายที่ ตั้งแต่มหาชัย จ.สมุทรสาคร, ช่องจอม ตลาดชายแดนไทย-กัมพูชา และบ้าน จ.สุรินทร์ รายทางมีเรื่องราวมากมาย แต่สายตาของเด็กมักสัมพันธ์กับการลั่นชัตเตอร์เสมอ
เด็กที่ไม่รู้จัก ทำได้แต่เพียงถ่ายภาพเสร็จแล้วก็ยื่นให้เจ้าตัวดูได้ยิ้ม
ส่วนเด็กในหมู่บ้านหลังจากยื่นให้ดูแล้วต้องสัญญาว่าจะอัดภาพส่งกลับไปให้ เหมือนเช่นที่เคยทำเสมอมา
นั่นคือวิธีบันทึกความทรงจำในโลกออฟไลน์ที่ยังใช้ได้ดีกับเด็กในหมู่บ้านของผม
ส่วนในโลกออนไลน์ผมเก็บมันไว้ทั้งในเฟซบุ๊คและเว็บไซต์ส่วนตัว
นี่คือส่วนหนึ่งของวัยเยาว์ครับ