ทวาย, เมียนมาร์

เด็กเลี้ยงควาย และกลิ่นขี้ที่คุ้นเคย

บนรถตู้ เราออกจากหมู่บ้าน Bawah มุ่งหน้าสู่ Innitial Phase โครงการพัฒนา​เขตเศรษฐกิจ​พิเศษ​ทวาย

แสงของตะวันเริ่มใกล้ระนาบกับพื้นโลก อากาศจึงไม่ร้อนนัก จากที่เห็นคนนอนกลางวันเพราะแดดร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟเราก็เริ่มเห็นคนออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้งมากขึ้น บ้างเตะตะกร้อ บ้างเล่นฟุตบอล บางคนรดน้ำผัก อาบน้ำข้างบ่อดิน หาบน้ำมาใส่ตุ่ม บ้างก็ตระเตรียมอาหารเย็น

เมื่อภาพทั้งหมดปรากฏ​อยู่ท่ามกลางบ้านเรือนยกสูง หลังคามุงจาก ถนนดิน และรั้วไม้ไผ่สาน ใครบางคนในคณะเดินทาง​บอกว่า “นี่มันภาพชนบทในอุดมคติ​ชัดๆ” พลันประโยคนี้จบลง เราก็เห็นเด็ก 2-3 คน กำลังกั้นคอกควายอยู่ห่างจากถนนลูกรังไม่กี่ก้าว

ผมขอให้หยุดรถ ก่อนหิ้ว Canon 80D ลงไปบันทึกภาพ เมื่อเห็นกล้องกำลังถ่ายทำ เด็กกลุ่มใหญ่ก็วิ่งออกจากบ้านมาลอบมองในระยะประชิด นับรวมคนในคณะเดินทางที่ลงมาร่วมเป็นสักขีพยาน​ บวกกับควายนับสิบในคอกนั้น เราพบว่าคอกเล็กๆ กลางทุ่งดูแน่นไปถนัดตา บางคราของวินาทีผมแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าไหนคนแล้วไหนควาย

ทวาย, เมียนมาร์

ในจำนวนสิ่งมีชีวิต​ทั้งหมดของค่ำนั้น หมอนี่ปีนคอกเข้าไปขี่หลังเจ้าทุยยิ้มแฉ่งให้เราดู เลนส์ 10-22mm ได้อวดศักยภาพ​ของมัน ผมลั่นไกชัตเตอร์​ ทันใดนั้นลมที่หายไปตลอดวันก็พัดมาเสียฉิบ ขี้ควายที่แห้งละเอียดเป็นฝุ่นผงลอยฟุ้งสวนคมเลนส์เข้ามาจนขมคอ

“นี่มันกลิ่นชนบทในอุดมคติ​ชัดๆ” ชนชั้นบนในตลาดล่างอย่างผมกล่าวผรุสวาท​ในใจ

เป็นนักเขียนเพียงคนเดียวของเว็บไซต์นี้ (แหงละ) เป็นมนุษย์ที่ชอบบันทึกเรื่องราวเอาไว้ เนื่องจากไม่ถนัดในการจดใส่กระดาษ จึงมักเขียนไว้ในโลกออนไลน์ บางเรื่องผิด บางเรื่องถูก แต่บันทึกความทรงจำจะช่วยตักเตือนเรา