ทวาย, เมียนมาร์

ตะบิวชอง คนทวายหลังสงครามแห่งวันวาน

ทวาย, เมียนมาร์

“ตะบิวชอง” เป็นชื่อหมู่บ้านกะเหรี่ยง​คริสต์ ชาวบ้านวัย 60 ขึ้นไปเล่าว่า ชีวิตของพวกเขาหมดไปกับการทำสงครามจนแทบไม่ได้ทำอะไร คนหนุ่มวัย 24 ที่คุยกับเราบอกว่า เขาต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน​เพราะคมกระสุนนั้นราคาแพงเท่าชีวิต

กระทั่งการสู้รบจบลง สถานการณ์​สันติภาพในพื้นที่เริ่มผลิดอก การสู้ยกใหม่ก็เริ่มขึ้น เพียงแต่โฉมหน้าของศัตรู​เปลี่ยนไปเล็กน้อย

พื้นที่แถบนี้กำลังเผชิญกับโครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม ชาวบ้านบางคนบอกว่า เขาเดินทางไปที่มาบตาพุดเพื่อดูให้เห็นกับตาว่า นิคมอุตสาหกรรม​ดีจริงอย่างที่เขาโฆษณา​ไหม ผลปรากฏ​ในทางตรงข้าม สิ่งที่เขาเห็น เสียงที่เขาได้ยิน ผู้คนที่เขาพบเจอเล่าเรื่องอีกแบบ

พวกเขากลับมาเล่าเรื่องให้คนในหมู่บ้านฟัง หญิงคนหนึ่งผู้มีทานาคาปาดสองแก้มพูดว่า พวกเขาไม่อยากให้บ้านเกิดเมืองนอนเป็นเช่นนั้น

เด็ก 2 คนนี้อายุรวมกันไม่น่าเกิน 4 ปี พวกเขาโชคดีหน่อยที่การสู้รบของกองกำลังชาติพันธุ์​กับฝ่ายต่างๆ เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี กระนั้นการถาโถมของนิคมก็ใหญ่เกินตัวเจ้าเด็กน้อย​ยิ่งนัก

คนหนุ่มคนเดิมบอกเราว่า อนาคตของที่นี่จะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับการเลือกทางเดินของคนที่นี่

บางเสียงจากบางสื่อพูดว่า หากโครงการแล้วเสร็จ โฉมหน้าของทวายจะเปลี่ยนไปตลอดกาล ใครบางคนตั้งข้อสังเกต​ด้วยความไม่แน่ใจว่า มันเปลี่ยนในแง่บวกหรือลบ ส่วนข้าพเจ้า​นึกถึง​ถ้อยคำ “โชติช่วง​ชัชวาล” ของมิตรสหายท่านนั้น

แต่ไม่ว่าหวยจะออกอย่างไร ข้อเท็จจริง​ก็คือเมืองทวายกำลังถูกวางเดิมพันด้วยลมหายใจแห่งอนาคต ผลของมันจะถูกกินแบ่งอย่างเป็นธรรมหรือถูกเจ้ามือกินเรียบ โปรด​ติดตามตอน​ต่อไป

เป็นนักเขียนเพียงคนเดียวของเว็บไซต์นี้ (แหงละ) เป็นมนุษย์ที่ชอบบันทึกเรื่องราวเอาไว้ เนื่องจากไม่ถนัดในการจดใส่กระดาษ จึงมักเขียนไว้ในโลกออนไลน์ บางเรื่องผิด บางเรื่องถูก แต่บันทึกความทรงจำจะช่วยตักเตือนเรา