ผมอยู่ชั้น 5 ของแมนชั่นไม่หรูแห่งหนึ่งในซอยวิภาวดี 60
ในฐานะบุคคลชั้นสูง ผมได้รับสิทธิให้มีพื้นที่ว่างๆ เป็นดาดฟ้าขนาดกว้างเท่ากับอีก 1 ห้อง ที่นี่นอกจากเอาไว้จัดปาร์ตี้แรงเงา* ของเพื่อนพ้องน้องพี่แล้ว มันแอบมีแปลงผักเล็กๆ เอาไว้ด้วย
นานมากแล้วที่ไม่ได้หัวซากับมัน (หัวซา = เอาใจใส่) เนื่องเพราะไม่มีวัสดุอุปกรณ์อะไรมากนัก จึงจัดได้แต่เพียงเอาดินใส่กระถาง เอาสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “พืช” หย่อนลงไป และ “จบ” มีแค่นั้น
กระทั่ง 2-3 วันที่ผ่านมา “คำปิ่น อักษร” นักข่าวพลเมืองที่เฟี้ยวที่สุดในอินโดจีนและคณะให้ความกรุณามอบไม้ไผ่ให้กองนึง
มันเป็นไม้ไผ่ที่ขนมาจากอุบลราชธานีเพื่อใช้ตกแต่งบูธ เสร็จงานผมอาศัยจังหวะชุลมุนชิงขอเอาไว้เพื่อมาแต่งห้องและสวนบนดาดฟ้า
ถ้าอยู่บ้าน ไม้ไผ่กองนี้อาจไม่ได้หายากเย็นเท่าใดนัก แต่สำหรับดินแดนศิวิไลซ์ที่เรียกว่ากรุงเทพฯ มันหายากชิบ หายากแล้วยังขนส่งลำบากอีกต่างหาก เมื่อมีไม้ไผ่เดินทางมาหาถึงที่ผมจึงฉกฉวยโอกาสนี้ไว้โดยไม่เขินอายแต่อย่างใด
มันไม่มีราคาเป็นเงิน
ณ ขณะนั้นผมพบว่าเงินซื้อเบียร์ได้ แต่ซื้อไม้ไผ่ไม่ได้ ผมได้มันมาฟรี
ด้วยความดีใจเป็นล้นพ้นจึงรีบจัดแจงเอามาแต่งสวนดังที่ท่านจะได้เห็นต่อไปนี้
- ปล. ใส่รูปแอมป์กับกีตาร์เอาไว้เพื่อเตือนความทรงจำ คิดว่าต้องถึงเวลาขายเสียแล้ว เพราะนานๆ ทีผมจะได้แตะเนื้อต้องตัวมันทั้งสอง
- *ปล. ผมแก้ไขจาก “ปาร์ตี้ไม่หรู” เป็น “ปาร์ตี้แรงเงา” เพราะล่าสุดพวกเขาและเธอมารวมตัวกันด้วยการนัดหมาย (ไม่อัศจรรย์เท่าไหร่) เพื่อมาดูแรงเงาที่นี่ กูจะบ้า!