ผมตั้งชื่อให้เจ้าหลานชาย มันมีความหมายว่า “พระอาทิตย์”
เป็นเรื่องธรรมดา ทารกแรกเกิดนั้นบอบบางต่อโลกา แม้ว่าชื่อของเขาจะแปลว่าพระอาทิตย์ก็ตาม ความเจ็บป่วยยามฝนฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลง อารมณ์งอแงตามประสาคนพูดจาไม่รู้ความย่อมเป็นเรื่องที่ไม่เหนือเกินกว่าการคาดเดา
ผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในขวบปีแรกได้ถือว่านับจากนี้ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
แต่กับนางจันดี โพธิสาร เธอปักใจเชื่ออย่าสุดลิ่มทิ่มประตูว่า ชื่อนี้ทำให้เกิดอาการร้อนรุ่ม ร้อนรน เจ็บป่วย และหว่านล้อมให้ลูกสาวเธอผู้เป็นแม่แห่งพระอาทิตย์เปลี่ยนชื่อเด็กน้อยคนนั้นเสียให้ได้
ไม่พูดเปล่า ผู้เป็นยายแห่งพระอาทิตย์พยายามอย่างยิ่งที่จะพาหลานชายไปให้พระตั้งชื่อให้ใหม่ โชคดีพระไม่ได้เพี้ยน ชื่อจึงไม่ได้ถูกเปลี่ยนตามปรารถนา
“อาตมาไม่เคยเห็นว่าในคำสอนของพระพุทธศาสนามีข้อใดเคยจารึกไว้ว่า การเปลี่ยนชื่อจะช่วยเปลี่ยนมนุษย์ได้”
เธอกลับมาด้วยอาการบ่นกระปอดกระแปด ยามหลานชายงอแง เจ็บป่วย แฟ้มคดีแห่งการเปลี่ยนชื่อถูกรื้อขึ้นมาพึมพำพิพากษาครั้งแล้วครั้งเล่า
หนักเข้าเริ่มลุกลามถึงขั้นต่อสายมาต่อว่าคนต้นคิดตั้งชื่ออยู่เป็นวรรคเป็นเวร
เมื่อได้ฟังเสียงบ่นจนสาแก่จึงตอบกลับไปว่า “ผมน่าจะตั้งชื่อให้แม่ใหม่ เผื่อการพูดจาปราศรัยจะได้เสนาะหูกว่านี้เสียบ้าง”