ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง

เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา นั่งรถไฟความเร็วต่ำจากสถานีต้นทางหัวลำโพง-ปลายทางหัวหิน แต่ผมไม่ต้องการไปถึงปลายทางหรอก ผมจะไปแค่ชะอำ

ตั๋วฟรีใบนั้นระบุเวลาออก 9.20 น. ผมอาจคาดหวังกับระบบรถไฟไทยมากเกินไป ระยะเวลาที่ล่าช้ากว่าในตั๋วเกือบชั่วโมงจึงทำให้คนใจเย็นอย่างผมเริ่มมีอาการปวดจิตตะหงิด ๆ ขึ้นมาบ้างแล้ว

รถไฟออกกระฉึกกระฉัก “ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง” มันคงไม่ได้หมายความหยิกแกมหยอกหรอกนะ ผมไม่คิดว่านี่คือความน่ารักน่าชังของระบบขนส่งมวลชนดึกดำบรรพ์อย่างที่ไอ้หน้าหนวดเคยสำรอกความโรแมนติกเอาไว้ในโฆษณาหรอก

อย่างที่เคยบอกว่าผมไม่ใช่คนดี ซ้ำร้ายกว่านั้นยังระยำหำเหม็นยิ่งนัก แต่ก็รู้สึกว่ามากเกินไปกับผู้ร่วมเดินทางที่สูบบุหรี่อย่างเสรีบนโบกี้รถไฟ พวกเขาซดเหล้า-เบียร์-พ่นควันตลอดเวลา มันมากเกินไป

หากให้นึกเห็นใจพวกเขา มันคงเป็นเพราะสติ๊กเกอร์ห้ามสูบบุหรี่บนรถไฟเริ่มเลือนรางกระมัง เขาจึงแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น และไม่ยี่หร่าอะไรกับผู้ร่วมเดินทางเพื่อนร่วมชะตากรรมบนรถไฟธรรมดาหมายเลขขบวน 261

ตำรวจรถไฟเดินผ่านไปผ่านมา แม่ค้า-พ่อค้าหาบคอนสินค้าขายตลอดเวลาเช่นกัน

บนรถไฟฟรีขบวนนี้ กาแฟกระป๋องขยับราคาในร้านขายของชำจาก 12 บาท กลายเป็น 25 บาท เช่นเดียวกับ M150, หมากฝรั่ง, นมเปรี้ยว ฯลฯ มันถูกคูณด้วยเลข 2 แทบทั้งสิ้น ผมไม่เดือดร้อนอะไรหรอก เพราะไม่มีตังค์จะซื้อกินอยู่แล้วไม่ว่ามันจะราคาเท่าไหร่ก็ตาม

บ่อยครั้งเสียงรถไฟ “ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง” ก็เงียบลงเป็นพัก ๆ ยามต้องหยุดในบางสถานี บางครั้งมันวิ่งออกจากสถานีได้ระยะหนึงแล้ว ต้องวิ่งย้อนกลับมาที่สถานีอีกรอบ

คนบนรถไฟสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงก็มีคำตอบเป็นรถไฟอีกขบวนวิ่งสวนทางมาอีกรางนึง

“ออ…ต้องเข้าสถานีเพื่อหลบให้อีกขบวน”

อีกด้านที่ไอ้หน้าหนวดไม่ได้บอกไว้ในโฆษณาคือ กลิ่น

มันไม่ใช่กลิ่นเขม่ารถไฟหรอก ยามใดที่รถไฟวิ่งช้าเราจะได้กลิ่นอันน่าภิรมย์ลอยออกมาจากห้องน้ำ “ขี้-เยี่ยว” นั่นแหละ อย่าตอแหลอย่างสุภาพเลย ขยะ กระดาษ เศษอาหาร นั่นก็เกลื่อนรถ

ตัวเลขบนตั๋วรถไฟระบุว่าผมจะไปถึงปลายทางเวลา 13.35 น.

เผื่อใจอยู่แล้วว่าถ้าออกจากสถานีต้นทางช้าเกือบชั่วโมง นั่นหมายความว่าปลายทางก็ช้าไม่ต่างกัน ขนาดเผื่อใจไว้แล้วยังไม่วายต้องเสียใจ

13.35 น. ก็ยังสัมผัสได้ถึงเสียงเย้ยหยันบนรางรถไฟ “ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง ๆๆๆ”

14.59 น. คือระยะที่รถไฟไทยประเภทธรรมดา หมายเลขขบวน 261 วิ่งถึงสถานี “ชะอำ” ผมเดินลงมาด้วยอาการคันหำอย่างรุนแรง ไม่ต้องถามว่ากว่าจะถึงสถานีปลายทางมันจะบวกเวลาเพิ่มไปอีกกี่มากน้อย

ไม่รู้จะด่าใครกับความห่วยของระบบขนส่งมวลชนพื้นฐานของสยามประเทศ แต่ถ้าใครอ่านถึงบรรทัดนี้ก็รับ ๆ แทนไปแล้วกันครับ

“หัวควยเอ๊ย!”

เป็นนักเขียนเพียงคนเดียวของเว็บไซต์นี้ (แหงละ) เป็นมนุษย์ที่ชอบบันทึกเรื่องราวเอาไว้ เนื่องจากไม่ถนัดในการจดใส่กระดาษ จึงมักเขียนไว้ในโลกออนไลน์ บางเรื่องผิด บางเรื่องถูก แต่บันทึกความทรงจำจะช่วยตักเตือนเรา